เราได้ยินมาสักพักหนึ่งแล้วว่า Thisable.me เป็นเว็บไซต์สำหรับผู้พิการ แต่สำหรับหนู – นลัทพร ไกรฤกษ์ บรรณาธิการสาวสวย ยืนกรานว่าเป็นพื้นที่สร้างความคุ้นเคยมากกว่าจะเป็นพื้นที่จำเพาะเจาะจง ด้วยโอกาสที่เว็บไซต์ Thisable.me จะครบรอบ 1 ขวบปีเร็วๆ นี้ เราเลยชวนเธอทบทวนถึงจุดเริ่มต้น และสิ่งสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการคลุกคลีกับประเด็นคนพิการตลอดมา และอะไรที่ทำให้บทความของเธอน่าดึงดูดไม่แพ้เสน่ห์อันน่าหลงใหลที่เธอมี ช่วยเล่าจุดเริ่มต้นของเว็บไซต์ Thisable.me หน่อย มาจากการเข้าค่ายของประชาไทเกี่ยวกับสิทธิของคนพิการ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเห็นว่าพลังของงานเขียนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมได้ เราเลยบอกกับทางประชาไทว่า หนูไม่อยากให้มันจบไปค่ายเดียว อยากทำค่ายต่อไปค่ะ หลังจากนั้นเราก็ได้ทำค่ายต่อไปจริงๆ พอเราทำในจุดนี้ เราเห็นว่ามีบางอย่างที่คนพิการกับคนไม่พิการยังไม่เข้าใจกัน เลยเกิด Thisable.me เพื่อสร้างความเข้าใจผ่านงานเขียน แต่ก่อนหน้านี้เราทำเพจบันทึกชีวิตประจำวันด้วย อารมณ์ประมาณว่า วันนี้ฉันไปเที่ยว วันนี้ฉันกินอะไร เราก็อัพรูปลงเพจส่วนตัวของเรา พอช่วงหลังๆ เริ่มมีคนตามเพจเราเยอะขึ้น เลยต้องทำตัวมีสาระขึ้นมานิดนึง…
Starbucks เริ่มตระหนักปริมาณขยะจากแก้วเคลือบพลาสติกในทุกเช้า จึงประกาศทดลองเก็บเงินค่าแก้วกาแฟเพิ่ม แบรนด์กาแฟดังอย่าง Starbucks ทดลองเรียกเก็บค่าแก้วกาแฟเป็นเงิน 5 เพนนี หรือประมาณ 2 บาทไทย ส่งเสริมให้ลูกค้าพกพาแก้วกาแฟมาเอง เพื่อลดปริมาณขยะจากแก้วกาแฟในทุกๆ เช้า ทั้งนี้มีการประมาณแก้วกาแฟ Starbucks ในประเทศอังกฤษ ซึ่งกลายมาเป็นขยะถึง 2.5 พันล้านใบต่อปี ขณะที่อเมริกาสูงถึง 4 พันล้านใบต่อปี สำหรับแก้วเครื่องดื่มร้อนของ Starbucks เป็นวัสดุกระดาษเคลือบพลาสติก ไม่สามารถนำกลับมาใช้อีกครั้งได้เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นช่วงเวลาต้อนรับวันใหม่ด้วยเครื่องดื่มร้อนสุดโปรด จึงกลายมาเป็นขยะไร้ประโยชน์ที่ยากต่อการขจัดทิ้ง แม้ในปัจจุบัน Starbucks จะมีการสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้านำแก้วใบโปรดของตนมาใช้ แล้วลดราคาเครื่องดื่มลง แต่ยังเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น…