วันนี้ Sharing Citizen ขอเชิญชวนคุณมาทำความรู้จักกับโลกของจิตใจ หรือ “โลกภายใน” ผ่านโมเดลภูเขาน้ำแข็ง ที่จะช่วยให้เราเข้าใจกลไกการทำงานของความคิด ความรู้สึก ความต้องการรวมไปถึงความคาดหวังที่เกิดขึ้นภายในตัวเรา จากงาน “สำรวจโลกภายในผ่านอุปลักษณ์ภูเขาน้ำแข็ง” โดย คุณชัยยศ กระบวนกรผู้เชี่ยวขาญในศาสตร์ของซาเทียร์ โมเดลภูเขาน้ำแข็งของซาเทียร์ โครงสร้างของจิตใจนั้นประกอบไปด้วย สิ่งที่เราสัมผัสจากเหตุการณ์ (Event) : บนสุดของภูเขาน้ำแข็งที่เหตุได้ด้วยตา และหลายคนนำเหตุการณ์เหล่านั้นมาตีความด้วยความคิดและมุมมองที่แตกต่างกันออกไป ความรู้สึกที่เกิดขึ้น (Feeling) : สิ่งที่เกิดขึ้นภายในตัวเรา และส่งผลให้เราอารมณ์ สีหน้า ท่าทาง มุมมอง (Perception) : ความคิดหรือทิศทางการมองเหตุการณ์ รวมไปถึงการวิเคราะห์ ตีความ ประเมินผล และคาดการณ์ ซึ่งหากในการทำงานเราจะสื่อสารกันโดยทำความเข้าใจในเรื่องนี้จะทำให้การทำงานเราสมเหตุสมผล ความคาดหวัง (Expectation) …
จริงๆเเล้วตัวตนของเราเป็นแบบไหนกัน ? ถ้าไม่นับรวมร่างกายซึ่งเป็นสิ่งรูปธรรมเเละจับต้องได้ เเล้วอะไรกันเเน่ที่บอกว่า “เราเป็นเรา” ในทางจิตวิทยามีคำศัพทย์ที่ใช้อธิบายสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นว่า self-concept หรือ อัตมโนทัศน์ อัตมโนทัศน์คือความรู้สึกนึกคิด ความเข้าใจ การรับรู้และทัศนคติของแต่ละบุคคลที่มีต่อตนเองในทุกๆ ด้าน ซึ่งเกิดมาจากเรียนรู้และ ประสบการณ์ที่บุคคลได้มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นและสิ่งแวดล้อม โดยส่งผลต่อบุคคลิกภาพ และพฤติกกรมที่เป็นไปได้ในอนาคต หนึ่งในนักจิตวิทยาที่พยายามอธิบาย self-concept คือ Dr. Bruce A. Bracken เขาเสนอแนวคิดเกี่ยวกับโครงสร้างของ self-concept ว่ามันประกอบด้วยมิติ 6 ด้านดังนี้ 1) คุณลักษณะด้านสังคม (Social) หมายถึง การประเมินตนเองเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นๆ เช่น การมีเพื่อนสนิทสักคนก็มากพอที่จะมีให้คุณมีมิติ social ที่สูงได้ 2) คุณลักษณะด้านความสามารถ…
เราไม่น่าทำตัวแบบนั้นเลย ? เคยไหม ที่คำถามนี้ผุดขึ้นมาในใจ หลังจากที่คุณทำอะไรพลาดไปโดยที่ไม่ทันคิดหรือระวังตัว ในชีวิตประจำวัน เราพบเจอเหตุการณ์มากมาย ทำให้เราอาจไม่อยู่นสภาวะที่สมบูรณ์ที่สุดในการตัดสินใจหนึ่งๆ ดังนั้นการรู้ทันเเละเข้าใจสภาวะของตนเอง หรือ self-awareness จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้เราเข้าใจ ยอมรับ รวมไปถึงควบคุม บทบาทของตนองในสถานการณ์ต่างๆที่ส่งผลต่อผู้อื่น โดยหลายบทความยกให้ self-awareness เป็นทักษะที่สำคัญในศตวรรษที่ 21 Self-awareness คืออะไร Self-awareness คือ การตระหนักรู้ในตัวเอง รู้ว่าขณะนี้กำลังคิดอะไร รู้สึกอย่างไร กระทำอะไรอยู่ ตลอดจนรู้ถึงสาเหตุที่ส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกและพฤติกรรมใน ณ ขณะนั้นเพื่อที่จะควบคุมการตอบสนองของตนเองที่กระทบต่อบุคคลอื่น อ้างอิงจาก TASHA EURICH นักจิตวิทยาองค์กร เเละผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนา self-awareness โดยเธอได้กล่าวว่า self-awareness นั้น…
ไปต่อหรือพอเเค่นี้ดีนะ ? สำหรับความสัมพันธ์ของคู่รักที่ความรักกำลังอิ่มตัวนั้น คำถามนี้ยังคงรอการตัดสินใจ เเต่การตัดสินใจที่ดี อย่างน้อยที่สุด ควรพิจารณาเหตุเเละปัจจัยที่ส่งผลถึงปัญหาหรือคำถามที่ตั้งไว้ งานวิจัยจาก Rusbult เเละทีมในปี 1998 ได้นำเสนอ โมเดลการลงทุนในความสัมพันธ์ว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง ซึ่ง 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1.) ความพึงพอใจในความสัมพันธ์ (Satisfaction Level) 2.)คุณภาพของตัวเลือก (Quality of alternatives) 3.)ปริมาณการลงทุนที่ลงไปก่อนหน้านี้ (Investment size) โดยปัจจัยเหล่านี้ล้วนสัมพันธ์กับระดับของพันธะผูกพัน (Commitment Level) ซึ่งส่งผลต่อความเป็นไปได้ในการยึดมั่นในความสัมพันธ์ (Probability of Persistence) ดังสัมการ C =(S – A)…
“คุณพอมีเวลาสัก 30 นาทีหรือไม่” หากมีคนถามคำถามนี้กับคุณ หากคุณว่างจริงๆ หรือเต็มใจที่จะทำสิ่งนั้นคุณจะตอบว่า “มี” แต่หากคุณมีภารกิจในชีวิตประจำวันเต็มไปหมด ตั้งแต่เช้าจนเย็น ตารางงานหรือ Google Calendar ของคุณเต็มไปด้วยการนัดหมายมากมาย การที่คุณจะตอบว่า “มี” หรือ “ไม่มี” นั้น ขึ้นอยู่กับว่าภารกิจอื่นๆของคุณนั้นมีความจำเป็นหรือความสำคัญมากหรือน้อยกว่านัดหมายใหม่ที่เข้ามา บทความนี้อาจเป็นตัวช่วยให้คุณ บริหารจัดการตัวเองได้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้นได้ เพราะเราได้เขียนบทความนี้ขึ้นจาก Workshop “Time Management” ของคุณพริม มณีโชติ วิทยากรด้านการบริหารจัดการเวลานี่เอง คุณเคยตั้งคำถามกับชีวิตตัวเองไหมว่า “เวลาของเรามีค่ามากน้อยแค่ไหน” แต่ไม่ว่าคำตอบจะมากหรือน้อยก็ตาม คุณจะรู้สึกว่าเวลาเหล่านั้นมีค่า ก็ต่อเมื่อเราได้ทำกิจกรรมที่ตัวเราได้ให้คุณค่ากับสิ่งนั้นด้วยเช่นกัน เริ่มจากค้นหาเป้าหมายชีวิตของตนเอง ว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องไหนบ้าง ไม่ว่าจะเป็น เป้าหมายในอาชีพและการทำงาน เป้าหมายด้านการเงินและความมั่นคง เป้าหมายด้านความรักความสัมพันธ์ เป้าหมายด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต…
Bookoins Book Club เป็นคลับสำหรับคนรักหนังสือที่เชิญทั้งผู้อยากเล่าและผู้อยากฟังมานั่งจับเข่าคุยกันในบรรยากาศชิวๆ ที่ Clazy Cafe จัดโดยศาสตราจารย์ ดร. นภดล ร่มโพธิ์ อาจารย์คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเจ้าของพอดแคสต์ Nopadol’s Story ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง OKRs มากที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย
เด็กไทยหลายคนมีอุปสรรคกับกำแพงการเรียนภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศเยอะมาก เพราะว่าในห้องเรียนเราแทบไม่ได้ใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสาร แต่ใช้เมื่อถึงคาบเรียนภาษาอังกฤษ หรือวิชาเฉพาะ ที่ให้การบ้านไปท่องศัพท์ คัดลายมือ จดจำโครงสร้างของประโยคและการเรียงคำที่ถูกต้อง (Grammar) ฯลฯ ทำให้หลายคนรู้สึกท้อใจกับการเรียนภาษา รู้สึกว่าวิชาเรียนภาษายากเกินไป หรือจบไปก็ไม่ได้ใช้ ในทางกลับกัน เมื่อเราออกนอกห้องเรียน กลับมาดูหนัง ฟังเพลง ติดตามดาราที่ชอบ ซีรี่ย์โปรดของเรา ไม่ว่าคำศัพท์นั้นจะเป็นคำใหม่ หรือคำเฉพาะทาง เรากลับจดจำได้อย่างดี อีกทั้งเป็นการจุดประกายแรงบันดาลใจในการเรียนภาษาเพื่อใช้ในการสื่อสารกับคนในประเทศนั้นๆได้ รวมไปถึงเรียนภาษาเพื่อเข้าใจวัฒนธรรมของคนในประเทศเหล่านั้น รู้สึกอยากเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มหรืออยากเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจความเป็นอยู่ของเขา ทีมงานจึงขอนำเคล็ดลับดีๆในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้เพื่อนๆชาว Sharing Citizen ได้ติดตามกัน กับงาน “Easy English” โดย คุณติ๊ต่าง (คุณนิชาภา พรหมประดิษฐ) จาก International Global Network…
หลังจากดำเนินโครงการ 1 Drink I Can Talk ในรูปแบบออนไลน์ ครั้งแรก!! ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว ทางทีมงานจึงขอนำเนื้อหาที่ประโยชน์ในการใช้ชีวิตระหว่างช่วงเคอร์ฟิว ให้เรามีชีวิตชีวาและมีความสุขกันมาฝาก กิจกรรม 1 Drink I Can Talk (Online) ที่ผ่านมา ทีมงานได้เชิญ คุณแก้ม จาก Understand มาแบ่งปันความรู้ในหัวข้อ “Anti – COVID Depression” ทำอย่างไรให้ห่างไกลโรคซึมเศร้าในช่วง COVID-19 โดยคุณแก้ม นักศึกษาแพทยศาสตร์ หนึ่งในสมาชิกจากทีมงาน UNDERSTAND ได้มาแบ่งปันข้อคิดและแนวทางการปฏิบัติตัวง่าย ๆ โดยใช้ตัวย่อว่า “1A3P” ได้แก่ (Adaptive,…
Singularity University Thailand Summit will explore exponential technologies to inspire implications meaningful to you, and showcase cutting-edge technologies. ดู Youtube งาน Singularity U Thailand Summit 2018 CLICK แนะนำเพิ่มเติมคุณรวิศ ได้พูดเรื่อง AI ใน ‘Mission to the moon’ : CLICK ราว ๆ…
โต๊ะทำงานคนส่วนใหญ่ในยุคนี้มีทั้งคอมรุ่นใหม่ เมาส์ไร้สาย เฮดโฟนบลูทูธคุณภาพดีและอื่นๆ แต่เหมือนว่าคุณก็ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ฉะนั้นเราจะมาแนะนำ 12 วิธีง่ายๆในจัดการโต๊ะทำงานเพื่อให้คุณทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น! งานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาพบว่าสีเขียวช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน อีกงานวิจัยจาก University of Exeter พบว่าต้นไม้ในที่ทำงานช่วยบรรเทาความเครียดและส่งเสริมสมาธิในการจดจ่อ การทดลองเผยให้เห็นว่าห้องทำงานที่เต็มไปด้วยต้นไม้และพืชช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานถึง 15% งานวิจัยจาก Northwestern University พบว่าพนักงานที่ได้รับแสงมากกว่าจะสามารถทำงาน มีการนอนหลับและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าพนักงานที่ได้รับแสงน้อย ข้อแนะนำ: นั่งในออฟฟิศที่มีแสงธรรมชาติเข้าถึง นั่งใกล้หน้าต่างในระยะ 20-25 ฟุต (เพราะมากกว่านี้จะรับแสงได้น้อยลงมาก) หรือจะลงทุนซื้อหลอดไฟที่ใช้ในการบำบัดภาวะ Seasonal Affective Disorder (SAD) ซึ่งเป็นภาวะซึมเศร้าชนิดหนึ่ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้แนะว่าการโดนแสงจ้าๆโดยเฉพาะตอนเช้าจะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น งานวิจัยจาก Wheeling Jesuit University พบว่ากลิ่มหอมๆของน้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหยช่วยกระตุ้นสมอง ความจำ และช่วยให้คุณพร้อมทำงานมากขึ้น อีกงานวิจัยที่น่าสนใจจาก …