Home2018March20Thisable.me ไม่ใช่เพื่อคนพิการ แต่คือพื้นที่สร้างความคุ้นเคยสำหรับทุกคน Impact Story Thisable.me ไม่ใช่เพื่อคนพิการ แต่คือพื้นที่สร้างความคุ้นเคยสำหรับทุกคน เราได้ยินมาสักพักหนึ่งแล้วว่า Thisable.me เป็นเว็บไซต์สำหรับผู้พิการ แต่สำหรับหนู – นลัทพร ไกรฤกษ์ บรรณาธิการสาวสวย ยืนกรานว่าเป็นพื้นที่สร้างความคุ้นเคยมากกว่าจะเป็นพื้นที่จำเพาะเจาะจง ด้วยโอกาสที่เว็บไซต์ Thisable.me จะครบรอบ 1 ขวบปีเร็วๆ นี้ เราเลยชวนเธอทบทวนถึงจุดเริ่มต้น และสิ่งสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการคลุกคลีกับประเด็นคนพิการตลอดมา และอะไรที่ทำให้บทความของเธอน่าดึงดูดไม่แพ้เสน่ห์อันน่าหลงใหลที่เธอมี ช่วยเล่าจุดเริ่มต้นของเว็บไซต์ Thisable.me หน่อย มาจากการเข้าค่ายของประชาไทเกี่ยวกับสิทธิของคนพิการ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเห็นว่าพลังของงานเขียนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมได้ เราเลยบอกกับทางประชาไทว่า หนูไม่อยากให้มันจบไปค่ายเดียว อยากทำค่ายต่อไปค่ะ หลังจากนั้นเราก็ได้ทำค่ายต่อไปจริงๆ พอเราทำในจุดนี้ เราเห็นว่ามีบางอย่างที่คนพิการกับคนไม่พิการยังไม่เข้าใจกัน เลยเกิด Thisable.me เพื่อสร้างความเข้าใจผ่านงานเขียน แต่ก่อนหน้านี้เราทำเพจบันทึกชีวิตประจำวันด้วย อารมณ์ประมาณว่า วันนี้ฉันไปเที่ยว วันนี้ฉันกินอะไร เราก็อัพรูปลงเพจส่วนตัวของเรา พอช่วงหลังๆ เริ่มมีคนตามเพจเราเยอะขึ้น เลยต้องทำตัวมีสาระขึ้นมานิดนึง เช่น การเอาประสบการณ์ที่เคยเจอมาเขียน การใช้ชีวิตกับโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอะไรทำนองนี้ เลยไปดึงเอาคนที่เป็นโรคนี้เข้ามาคุยมากขึ้น เราก็เห็นว่าปัญหาตรงส่วนไหนที่พวกเขายังไม่เข้าใจ หลังจากทำงานเป็นบรรณาธิการ Thisable.me เราเห็นปัญหาอะไรในตัวแบรนด์บ้าง ความล่าช้าและความเป็นตัวเราเนี่ยแหละ เนื่องจากคนทำงานค่อนข้างน้อย และส่วนใหญ่มีเราเป็นหลักในการทำงาน มันเลยทำให้ความเป็นเราผูกติดแบรนด์ Thisable.me เช่น เวลาเราไปตามหมายข่าวทั้งวัน หรือมีงานนอกเข้ามา หน้าเว็บก็จะไม่มีการเคลื่อนไหว ถ้าหากมองในระยะยาว ความเป็นเราจะลำบากเพราะคนที่เข้ามารับช่วงต่อในกรณีที่ไม่อยากทำ แต่เราไม่อยากให้มันหายไป ทำให้ต้องปรับจูนกันใหม่เกือบทั้งหมด หลังๆ เราเริ่มวางแผนจะรับทีมเพิ่ม เพื่อให้การทำงานมันคล่องตัวมากขึ้น คนหนึ่งไปทำอย่างอื่นโดยที่อีกคนไม่ต้องเป็นห่วง หลายคนมองว่า Thisable.me วางตัวเป็น NGOs จริงไหม เราวางตัวเองเป็นสื่อค่ะ หลายครั้งเราเคยทบทวนกับตัวเองเหมือนกันว่าเป็นผู้สนับสนุน หรือเพจเราเป็นNGOs ด้วยความที่เราเติบโตมาจากมูลนิธิ เลยรู้สึกว่าตัวเองเป็นมูลนิธิด้วยหรือเปล่า แต่ถ้าถามโดยส่วนตัว เราอยากให้มันเป็นบริษัท เรารู้สึกว่าการทำงานเรื่องคนพิการไม่จำเป็นต้องมีภาพลักษณ์เป็นมูลนิธิ หรือองค์กรเพื่อสังคม แต่อยากให้เป็นบริษัทที่สามารถหารายได้และอยู่ได้ด้วยตัวเอง อาจจะมองว่าเป็นแผนระยะยาวไปหน่อยนะ แต่เพราะเราเห็นว่าทุกคนมีใจที่จะทำตรงนี้ ซึ่งคนที่ทำอยู่เป็นลักษณะกึ่งอาสาสมัคร แม้จะได้ค่าจ้างบ้างไม่ได้บ้าง แต่ทุกคนก็ทำงานจนมาถึงวันนี้ เราจะรู้สึกแย่ทุกครั้งถ้าเกิดเราไม่มีเงินทุนให้น้องๆ ทำ เราก็ต้องยิ่งผลักดันตัวเองมากขึ้น เห้ย! เราต้องอยู่ได้ดิว่ะ เราก็ต้องพยายามกันต่อไป มองว่าในอนาคตเราจะมีเงินทุนมาสนับสนุนตรงนี้ไหม ตอบยาก (หัวเราะ) ปีที่ผ่านมาเราได้ทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อาจจะเพราะว่าเราเกิดมาจากมูลนิธิที่เขามีช่องทางในการขอทุนอยู่แล้ว เราเลยไม่ได้มีปัญหามากนักสำหรับเรื่องขอทุนสนับสนุน แต่ด้วยความที่ประเทศไทยกลายเป็นประเทศกำลังพัฒนาหรือพัฒนาไปแล้ว เลยทำให้ช่องทางในการหาทุนน้อยลง เพราะเขามองว่าเรื่องคนพิการไม่ได้เป็นปัญหาแล้ว ซึ่งต่างกับในประเทศด้อยพัฒนา เขาจะให้ทุนพัฒนาค่อนข้างเยอะ แต่พอมาในประเทศไทยที่ขยับขั้นเป็น Middle Income Trap กลายเป็นว่าทุนเหล่านี้ก็โดนตัดทิ้งทั้งๆ ที่ปัญหามันยังไม่ได้แก้ไขอะไรเลย อาจจะซวยไปนิดนึง แต่เราก็ต้องก้าวต่อไปค่ะ พูดถึงเนื้อหาที่ Thisable.me อยากสื่อสารกับคนอ่านเป็นอย่างไร เราพยายามผลักให้ทุกคนเห็นความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคนพิการหรือคนไม่พิการ ผู้สูงอายุ ความหลากหลายทางเพศ หรือเยาวชน สามารถอยู่รวมกันได้ในสังคมเดียวกัน ไม่ใช่ว่าเราแบ่งแยกคนพิการออกไป ลิมิตว่าเขามีสังคม หรือโรงเรียนคนพิการ หรือว่ามีสถานที่ทำงานสำหรับคนพิการ มีศูนย์บริการและให้ความช่วยเหลือ คือเรารู้สึกว่าเป็นการแบ่งแยกเขาออกไปเลย โดยที่เราไม่มีความพยายามเลยว่าจะทำความรู้จักกันมากขึ้นและจะรวมพวกเขาเข้ามาอยู่ในสังคมเดียวกันได้อย่างไร แต่เนื่องจากพื้นฐานมาจากประชาไท ทำให้เราเชื่อเรื่องสิทธิและเสรีภาพก่อนเลยนะ ถ้าใครถามว่าเว็บไซต์เราเน้นเรื่องอะไร เราเชื่อเรื่องความเป็นคนเท่ากัน ดังนั้นเราจะไม่ชูเรื่องความพิการเหนือความเป็นคนขนาดนั้น เรารู้สึกว่าความพิการคือรหัสของเขา ว่าเขามีความพิการ แต่สุดท้ายแล้วผลงานของเขา ทัศนคติของเขา ตัวตนของเขา ควรจะเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้จักเขามากกว่าความพิการ เอาจริงๆ ต้องขอบคุณประชาไทที่สนใจหยิบเรื่องคนเล็กคนน้อยมาพูดถึง มากกว่าการที่มุ่งเข้าหาสิ่งที่เป็นกระแสหลัก ทำไมประเด็นความพิการในสังคมไทยยังไม่ขยับไปไหนสักที ความไม่คุ้นเคยค่ะ เราคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีใครถูกใครผิด หรือชัดเจนในเรื่องของคำพูดหรือการปฏิบัติต่อคนพิการ เรามองว่าเป็นเรื่องของความไม่คุ้นเคยและไม่ได้รู้จักกันมากกว่า เหมือนว่าเราไม่ได้อยู่ในสังคมเดียวกันกับคุณ แน่นอนว่าถ้าคุณไม่เคยมีเพื่อนเป็นคนพิการเลย คุณนึกไม่ออกหรอกว่าเมื่อเจอคนพิการต้องปฏิบัติต่อเขาอย่างไร ดังนั้น Thisable.me กำลังพยายามลดช่องว่างระหว่างคนพิการกับคนไม่พิการอยู่ในตอนนี้ คิดว่าสิ่งที่เราทำตลอดมา มันประสบความสำเร็จบ้างไหม ถ้าถามว่าประสบความสำเร็จไหม เราอาจจะวัดไม่ได้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เราทำมันประสบความสำเร็จหรือเปล่า แต่อย่างน้อยมีคนสนใจประเด็นคนพิการมากขึ้น ความพิการได้หลุดออกจากเวรกรรม ความน่าสงสาร หรือการสงเคราะห์ ก้าวไปสู่สภาวะที่สร้างสรรค์ เช่น การทำงาน ชีวิตครอบครัว การมีส่วนร่วมของคนพิการในแง่ของพลเมือง มองว่าอาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่เราเติบโตมาได้ค่อนข้างดี เรารู้สึกว่าอย่างน้อย เราก็ดึงคนในกลุ่มที่สนใจเรื่องสิทธิมนุษยชนมาผนวกรวมกับคนพิการเข้าไปได้อีกหนึ่งประเด็น จากเดิมทีเขาไม่ได้คิดว่าเรื่องสิทธิมนุษยชนมีเรื่องคนพิการด้วย แต่กลายเป็นว่าเรื่องคนพิการได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งและถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ บทความลักษณะไหน ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เท่าที่สังเกต เรื่องเกี่ยวกับสิทธิสำหรับคนพิการจะไม่นิยมเท่าไหร่ ส่วนมากก็เป็นคนพิการที่แชร์ต่อๆ กันไป เพราะมันเป็นสิทธิที่เขาตระหนัก แต่สำหรับคอนเทนต์เกี่ยวกับความรักของคนพิการ เรื่องเซกส์ หรือเรื่องเพศทางเลือก คนทั่วไปกลับสนใจมากกว่า เราเข้าใจว่ามันยังแปลกและไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่ในขณะเดียวกันก็คุ้นเคยแล้วรู้สึกว่ามันใกล้ตัว แอบตลกนิดนึงว่ากลุ่มเป้าหมายของเราคือ สาวออฟฟิศ เพราะ Thisable.me ต้องการทำให้เพื่อนเราอ่าน หรือคนที่อายุใกล้เคียงกับเรา มันทำให้เราสังเกตง่ายขึ้น และทำงานได้ง่ายขึ้นจากความสนใจว่าพวกเขาอยากรู้อะไร นิยมอะไรกันอยู่ ณ ขณะนั้น ทำอย่างไรให้คนอ่านรู้สึกคลิกกับสิ่งที่เราต้องการสื่อ เอาจริงๆ ประเด็นเรื่องคนพิการ เรารู้สึกว่าไม่ได้น่าสนใจเลยถ้าเกิดว่าเราไม่พิการจะรู้สึกว่าเรื่องสิทธิของคนพิการหรือการใช้ชีวิตของคนพิการจะรู้ไปทำไม เราเลยรู้สึกว่าสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เขาสนใจมากขึ้นถึงจุดร่วมบางอย่างที่ทำให้เขานึกออก เช่น เรามัวแต่พูดว่าคนพิการไม่สามารถขึ้นลิฟท์ได้จากปัญหาร้อยแปดพันอย่างที่คนพิการเผชิญ เขาจะนึกออกได้ไงเพราะเขาไม่ได้นั่งวิวแชร์ แต่ถ้าเราพูดถึงว่าถ้าแม่คุณเข้าสู่วัยชรา แม่คุณอาจต้องเดินเหินลำบาก และอาจใช้ชีวิตบนวิวแชร์ ซึ่งบางครั้งการมีลิฟท์ที่เอื้อประโยชน์ทั้งผู้สูงอายุ ทั้งแม่ลูกอ่อนที่ต้องใช้รถเข็นเด็ก ก็สามารถขึ้นลิฟท์ได้อย่างสะดวกปลอดภัย จุดร่วมตรงนี้มันทำให้หลายคนเริ่มหันมาใส่ใจมากขึ้น ไม่ใช่แค่คนที่นั่งวิวแชร์อย่างเดียว คุณเองก็ได้ประโยชน์ไปด้วย จากการทำงานที่ผ่านมา เรามอง Thisable.me ในอนาคตไว้อย่างไร จริงๆ เราไม่ได้พยายามแค่ในแง่ของการทำคอนเทนต์ตัวลำพัง คือถ้าเราทำประเด็นเรื่องคนพิการอย่างเดียวก็ไม่มีทางที่จะผลักประเด็นนี้ไปสู่วงอื่นๆ ได้ เราก็เลยเข้าไปทำร่วมกับเพจอื่นด้วย ถ้าคุณทำประเด็นนี้อยู่ แต่เราอยากเสนอเรื่องคนพิการที่เป็นประเด็นเดียวกับคุณล่ะ จะทำออกมาในรูปแบบไหนบ้าง ถ้าเราเจอเพจที่คิดว่ามีจริตตรงกัน แล้วเขาสามารถสื่อสารและเข้าใจในประเด็นคนพิการ มันจะมีประโยชน์มากแค่ไหน การผลักอะไรเหล่านี้เข้าไปในพื้นที่ของคนอื่น มันทำให้พื้นที่ของคนเหล่านั้นมีเรื่องเล่าใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนพิการเข้าไปด้วย เราอยากเห็นอะไรในสังคมไทย สิ่งที่เราอยากเห็นคือการเคารพสิทธิของคนอื่นให้เท่าๆ กับตัวคุณซึ่งมันจำเป็นมากในสังคมที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวันนี้ คือคุณเคารพแต่สิทธิของตัวเอง แต่คุณไม่ได้คำนึงถึงสิทธิคนอื่น คนนึงเข้าไม่ถึงสิ่งนี้ แต่คุณเข้าถึงซึ่งคุณไม่ได้เดือดร้อนอะไร ทำไมคุณต้องปล่อยให้คนที่เข้าไม่ถึงเดือดร้อนอยู่คนเดียว ทั้งๆ ที่เป็นปัญหาร่วมกัน เราเลยรู้สึกว่าถ้าคุณเข้าใจสิทธิตัวเอง แล้วก็เคารพสิทธิของคนอื่น แม้ว่าเขาจะมีสถานภาพด้อยกว่าคุณ สภาพร่างกายแตกต่างกัน หรือไม่มีสัญชาติ หรืออะไรก็ตามแต่ การเคารพสิทธิของกันและกันคือเรื่องสำคัญ และมาจากการเปิดใจยอมรับความหลากหลายด้วย อยากบอกอะไรกับทุกคน เอาจริงๆ อยากให้ทุกคน ไม่ว่าจะพิการหรือไม่พิการ พยายามทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำให้มากที่สุด เราคิดว่ามันจำเป็นค่ะ คือถ้าเกิดว่าเราพิการแล้วเราต้องถูกจำกัดว่าเราต้องทำแบบนี้ แบบนั้นเท่านั้น เรารู้สึกว่านั่นไม่ใช่ชีวิตที่เราอยากจะมี แล้วเราก็เชื่อว่าทุกคนมีสิทธิเลือกถึงแม้จะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นในแบบที่ตัวเองอยากได้ แต่อยากให้พยายามให้มันใกล้เคียงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ Share this:Click to share on Twitter (Opens in new window)Click to share on Facebook (Opens in new window)Like this:Like Loading... Related Nep Community Builder | Passion ด้านการศึกษา | รักการจัดอีเว้น, พูดคุยกับผู้คน Share This Previous Articleรีวิวสั้นๆ - Lean Startup Workshop by Chula Tech Startup Next Articleเคยสงสัยไหมว่าทำไมคนรวยถึงรวยขึ้น? March 20, 2018